จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
Popular Posts
-
ไขปริศนาดังคดีธรรมกายกับ สหกรณ์คลองจั่น เกี่ยวกับหลวงพ่อธัมมชโยอย่างไร เรื่องนี้ต้องสืบ!!! 2559 นับเป็นปีที่วัดพระธรรมกายอยู่ไม่สุ...
-
ยืดเยื้อ..ยาวนาน...ยังไม่จบ นักสืบคดีพิเศษจึงไม่อาจอยู่เฉยได้ ขอไขข้อสงสัยให้กระจ่าง!!??? คดีสหกรณ์เครดิต ใครผิดกันแน่?? DS...
-
อดีตข้าราชการระดับ 7 ภูเก็ต ผู้หลบหนีคดีปลอมเอกสารที่ดิน ถูกกล่าวหาปลอมเอกสารที่ดิน 12 แปลง พังงา และสุราษฎร์ธานี มูลค่ากว่า 10,500 ล้า...
Blogger templates
Blogger news
Blogroll
About
Blog Archive
เกี่ยวกับฉัน
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ยืดเยื้อ..ยาวนาน...ยังไม่จบ
นักสืบคดีพิเศษจึงไม่อาจอยู่เฉยได้
ขอไขข้อสงสัยให้กระจ่าง!!???
คดีสหกรณ์เครดิต ใครผิดกันแน่??
DSI ได้สั่งฟ้องคดี 2 คดี ในกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
ที่ขัดแย้งกันเอง ได้แก่
1. คดีพิเศษที่
146/2556 สั่งฟ้องนายศุภชัยและพวกข้อหา
“ลักทรัพย์นายจ้าง”
แสดงว่าทรัพย์นั้นต้องเป็นของสหกรณ์ฯ
คลองจั่น
ซึ่งเป็นนายจ้างของนายศุภชัย
2. คดีพิเศษที่
63/2557 สั่งฟ้องนายศุภชัยและพวกข้อหา
“ฉ้อโกงประชาชน ”คือหลอกชาวบ้านให้มาฝากเงินกับสหกรณ์ฯ แสดงว่าทรัพย์นั้น เป็นทรัพย์ที่เกิดจากการกระทำความผิด
เจ้าของทรัพย์ที่มีสิทธิเรียกเอาทรัพย์คืน คือ
ประชาชนที่ถูกหลอกลวง
ทรัพย์นั้นจึงไม่ใช่ทรัพย์ของสหกรณ์ฯ คลองจั่นการที่ดีเอสไอสับสน สั่งฟ้องมั่วทั้ง 2 คดีที่ขัดแย้งกันเอง จึงขัดต่อหลักกฎหมาย
ทางแก้ไข??
ทางสหกรณ์ฯคลองจั่นยืนยันมาตลอดว่า ทรัพย์นั้นเป็นของตนและเป็นผู้แจ้งความในคดีที่
146/2556 จนอัยการสั่งฟ้อง เรื่องขึ้นสู่ศาลแล้ว
ดังนั้นทางออกในการแก้ปัญหา
การตั้งคดีที่ขัดแย้งกันเองขัดต่อหลักกฎหมายของDSI คือ ทางอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีที่ 63/2557
ผลกระทบ!!!
การจะตั้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินในคดีพิเศษที่ 27/2559 ต่อ
พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) และคนอื่นๆ ได้ จะต้องมีความผิดมูลฐานก่อน
ในกรณีนี้คือความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องคดีที่ 63/2557 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนแล้ว ความผิดมูลฐานของการฟอกเงินก็หมดไป ข้อหาสมคบกันฟอกเงินในคดีที่ 27/2559 ก็จะหมดไปด้วย
สรุปง่ายๆ ในสำนวนคดีนี้..
หมายความว่าเช็คทั้งหลายทั้งสิ้นที่นายศุภชัยจ่าย ที่ DSI มาตรวจเล็งที่เดียวที่วัดพระธรรมกาย เป็นสิ่งไม่ถูกต้องอีกทั้งรูปคดีนี้ ใน
กรณีลักทรัพย์ เงินและเช็คนั้นต้องเป็นของสหกรณ์ ผู้ได้รับความเสียหาย ซึ่ง ไม่เกี่ยวข้องใดใดกับวัดพระธรรมกายเลย
กรณีฉ้อโกงฯ ก็ต้องเป็นประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย ซึ่งวัดพระธรรมกายไม่ได้นำทรัพย์ทั้งหมดนั้นมา และไม่มีเกี่ยวข้องในการหลอกลวงประชาชนเลย
เพราะคนที่มาฝากเงิน ไม่ได้นำเงินมาทำบุญ หรือมีส่วนกับวัด
ดังนั้น ควรจะหยุดคดีนี้ได้หรือยัง!!?? จะยืดไปอีกนานแค่ไหน อย่าคิดว่าประชาชนไม่รู้กฎหมาย หรือวัดพระธรรมกายจะเป็นแพะรับบาปให้
เราจะสืบสาวตัวการบงการให้ถึงที่สุด!!??? คอยดู
ป้ายกำกับ:
คดีสหกรณ์,
ธรรมกาย,
สืบจากเช็ค,
หยุดคดีพิรุจ,
หยุดรังแกวัดพระธรรมกาย,
dsi
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
4 ความคิดเห็น:
อย่าคิดว่าเราเป็นแพะนะมองดูให้ดีๆ พวกเราเป็นลูกพระพุทธเจ้าผู้ทรงศีลเป็นมนุษย์ผู้มีใจอันประเสริฐ เปล่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนะจ้ะพ่อคนยัดเยียดคดีตาบอดตาใส
DSIกำลังทำผิดกฎหมายเองหรือไม่ ไม่ควรใช้อำนาจที่ตนมี มาเพื่อทำลายวัด แต่เป็นญาติดีกัยยาบ้า มอมเมา แล้วความมั่งคงสังคมจะเกิดได้อย่างไร ถ้าคนในสังคมเมายาบ้า
ความจริงก็ชัดเจนครับ แต่ทำไมดีเอสไอจึงทำตัวเป็นคนตาบอด หูหนวก หรือว่าไปรับงานมาจากใครที่คิดจะทำลายวัดพระธรรมกาย
โดยปกติิคนเราต้้องเลืือกสิิ่่งทีี่่ดีีกว่่า ฉะนัั้้นอยากให้้ประชาชนเลืือกในสิิ่่งทีี่่จะปฏิิรููปก็็ต้้องทำในสิิ่่งทีี่่ดีีกว่่า ไม่่ใช้้อำนาจแบบนีี้้ เสีียคะแนนหมด สัังคมไทยสยามเมืืองยิิ้้มก็็เสีียหายด้้วย
แสดงความคิดเห็น